ClickUp ต้องการเข้ามาแข่งขันกับ Notion และ Confluence ด้วยฐานความรู้ใหม่ที่ใช้ AI
ตั้งแต่เปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2560 ClickUp ได้เป็นเครื่องมือการดำเนินงานที่นิยมและได้รับการลงทุนอย่างดี และเช่นเครื่องมือการดำเนินงานทั้งหมด ทีม ClickUp ยังได้ยินเสียง "เพลี้ยวอยากของปัญญาประดิษฐ์" บริษัทนี้ตอนนี้ได้เปิดตัวสิ่งที่เรียกว่า “การจัดการความรู้ ClickUp” ซึ่งรวม editor แบบ wiki-like ใหม่ พร้อมระบบ AI ใหม่ ที่ยังสามารถนำเข้าข้อมูลจาก Google Drive, Dropbox, Confluence, Figma และแหล่งที่มาอื่น ๆ ด้วย ด้วยสิ่งนั้น บริษัทมีเป้าหมายที่จะสร้างเครื่องมือที่สามารถแข่งขันกับบริการยอดนิยมอื่น ๆ เช่น Notion และ Confluence ของ Atlassian.
ClickUp โดยสมัครก่อตั้งและ CEO Zeb Evans บอกว่า เขาเชื่อว่า AI มีความสำคัญสำหรับการจัดการความรู้ แต่ในการใช้อันดับสูงสุดสำหรับธุรกิจควรมีคลังกลางสำหรับความรู้ทั้งหมดเพื่อสร้างประโยชน์มากที่สุด
“ในบริษัทส่วนใหญ่ คุณมีความรู้จริงที่เขียนอยู่ในที่หนึ่งเช่น Confluence [wiki] หรือ Notion” เขากล่าว. “และจากนั้นคุณมีความรู้ที่เยอะมากในแหล่งที่ต่างกัน มีบ้าง startup เช่น Glean ที่เริ่มเชื่อมโยงสิ่งเหล่านั้นระหว่างการเชื่อมโยงสิ่งเหล่านั้น แต่ปัญหาที่แท้จริงที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ คุณสามารถไปที่เครื่องมือหนึ่งและเชื่อมโยงสิ่งเหล่านั้น แต่คุณไม่สามารถแก้ไขและจัดการสิ่งเหล่านั้นและทำงานเกี่ยวกับงานเหล่านั้นในแพลตฟอร์มเดียวกัน”
เป็นปัญหาที่ทีม ClickUp เองเผชิญกับในระยะหลายปี และแม้ว่าคุณสามารถเขียนเอกสารบนแพลตฟอร์มได้แล้ว ทีมตัดสินใจที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ตั้งแต่ตอนแรก โดยเริ่มต้นด้วยวิกิเป็นใจของมัน (และค่อนข้างคล้ายกับ Notion มากกว่า Confluence) แต่จากนั้นยังทำการส่งเสริมระบบ AI ใหม่ซึ่งสามารถดึงข้อมูลจากทุกแหล่งเหล่านี้
“คุณสามารถสร้างวิกิใน ClickUp และเรายังเชื่อมต่อกับเครื่องมือการทำงานอื่น ๆ ของคุณและรวมความรู้ไว้ในสมองบริษัทกลาง — เพื่อเรียกจดบันทึกในข้อความวิกิโดยคำถามที่ปรากฏทั้งหมด” เอแวนส์อ้างว่า
ผลลัพธ์ ClickUp อ้างว่าเป็นระบบที่รวมสิ่งดีที่สุดของ Notion, Confluence และ Glean เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างเอกสารได้อย่างรวดเร็ว สำหรับข้อความซึ่งคุณสามารถใช้บนรายงานโครงการ การอัพเดททีม สรุปและการปันญา ทีมได้สร้างเทมเพลทที่ถูกสร้างไว้ไว้ก่อนแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถใช้ระบบเพื่อมอบงานโดยอัตโนมัติเติมข้อมูลงานและค้นหางานซ้ำ ๆ
เช่น โดยปกติจะมี chatbot ที่คนสามารถใช้สืบค้นเอกสารของตน สิ่งที่ทำให้น่าสนใจที่นี่คือ ClickUp ได้สร้างระบบให้อย่างดี โดยไม่เฉพาะทเชื่อมโยงทุกแหล่งที่มาของมัน แต่ยังถามผู้ใช้อย่างเป็นคำสั่งถ้าควรสร้างเอกสารที่เกี่ยวข้องของพวกเขาตามผลลัพธ์คำถาม
เอแวนส์เน้นว่าระบบนี้ใส่ใจสิทธิการเข้าถึงของพนักงาน ดังนั้น AI จะแสดงข้อมูลที่ผู้ใช้นาจะประโยชน์ด้วย
เมื่อเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ClickUp ได้รับการเข้าซื้อ Slapdash เครื่องมือค้นหาแบบเวสเวิร์ดซึ่งรวมข้อมูลจากแอป SaaS ที่ถูกแบ่งระหว่างตัวเอง ตั้นน ClickUp ทำงานกับการสร้างโครงสร้างการทำงาน Slapdash ขณะนีพอมจะทำงานกับ AI สิ่งนี้ทำให้ ClickUp Knowledge Management สามารถดำเนินการสืบค้นเสริมกำเรธจากระบบถามน์ up ที่รวมกับข้อมูลเพิ่มเติมและทันเวลา
“มันไม่ใช่การระบบผสมใต้ภาชาง ที่มักใช้อปให้ไปค้นหาทุกอย่าง แต่เรากำลังซึ้งไปยุการทดร้องทั่วฐกดาฐค์จากคลังข้อมูลจากการเชื่งใดลักสทำงานภายใต้ระบบทำนสร่างคนเกียวข้แลคงรวดอโอง”, Evans กดมัน
เข้าไปดูไว้ ClickUp มาตระมีใฤการใช้ระะหว่างการงานได้ทำมากขึ้น
“เราเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเปลี่ยนองงานให้ได้มากขึ้น ปรากฏผลกงงง”, Evans